···
หน้าแรก
···
บทความน่ารู้
···
วิธีติดต่อ
···
เว็บไซด์
···
สมัครใหม่
···
เข้าสู่ระบบ
···
บัญชีผู้ใช้
···
Language
···
รถเข็นสินค้า
คูปองส่วนลด
K
0 เหรียญ
อาการเล็กน้อยเหล่านี้ สามารถลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ได้ ถ้าหากละเลย มีดังต่อไปนี้
1. ปวดฟัน
***ปวดฟันตลอดเวลามักเกิดจากฟันผุที่ลุกลามไปถึงเนื้อฟันชั้นในหรือโพรงประสาทฟัน โดยฟันผุอาจเกิดจากแบคทีเรียที่สะสมบนฟัน
ร่วมกับการแปรงฟันไม่สะอาด รับประทานอาหารหวานหรือแป้งบ่อยๆ
***ปวดฟันจี๊ดๆอาจเกิดจากฟันผุที่ยังไม่ลุกลามไปถึงเนื้อฟันชั้นในหรือโพรงประสาทฟัน
แต่อาจทำให้เคลือบฟันหรือเนื้อฟันชั้นนอกเสียหายได้สาเหตุของฟันผุ อาจเกิดจากปัจจัยเดียวกันกับปวดฟันตลอดเวลา
2. ฟันมีคราบเหลืองหรือเปลี่ยนสี
***คราบเหลืองหรือเปลี่ยนสีอาจเกิดจากคราบพลัค หินปูน หรือสาเหตุอื่นๆ
เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มชาหรือกาแฟ การใช้ยาบางชนิด
***คราบพลัคเป็นแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่เกาะติดบนฟัน
หากไม่ขจัดออกจะแข็งตัวเป็นหินปูน ซึ่งอาจทำให้ฟันเหลืองหรือเปลี่ยนสีได้
3. เหงือกบวมแดงและมีเลือดออก
***เหงือกบวมแดงและมีเลือดออกอาจเกิดจากโรคปริทันต์ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจาก
การอักเสบของเหงือกและกระดูกรอบฟันโดยโรคปริทันต์
อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การแปรงฟันไม่สะอาด
การสะสมของคราบพลัคและหินปูน การสูบบุหรี่
4. เสียวฟันด้านข้าง
***เสียวฟันด้านข้างอาจเกิดจากฟันผุ
โรคปริทันต์ หรือสาเหตุอื่นๆ
เช่น การแปรงฟันที่แรงเกินไป การนอนกัดฟัน
ข้อควรระวัง
**หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบพบทันตแพทย์โดยเร็ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจทำให้อาการลุกลามจนเสียฟันได้
**ควรหมั่นดูแลสุขภาพฟันและช่องปากอย่างสม่ำเสมอ โดยการแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหลังแปรงฟัน
และพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันและช่องปากเป็นประจำทุกปี